9 เรื่องน่ารู้ น้องใหม่ MICRO ขวัญใจสิบล้อไทย พร้อมเทรด 1 ต.ค.นี้
1. MICRO ผู้นำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง
ไมโครลิสซิ่ง หรือ MICRO ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน โดยมีสินเชื่อที่ให้บริการ ได้แก่
1.สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถบรรทุกมือสอง เพื่อประกอบธุรกิจ มีสัดส่วน 95%
2.สินเชื่อเพื่อมสภาพคล่อง หรือ สินเชื่อแบบมีรถบรรทุกเป็นหลักประกัน จัดทำภายใต้สัญญาเช่าซื้อ สำหรับลูกค้าที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน
3.สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีประวัติการผ่อนชำระดี
4.บริการเสริมอื่นๆ โดยให้บริการประสานงานเพื่อจัดทำและต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ
2. สาขากระจายครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ
ปัจจุบันบริษัทจัดหาลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสองเป็นหลัก ซึ่งมีเครือข่ายรวมกว่า 350 ราย และเครือข่ายนายหน้าจัดหาลูกค้าอีกกว่า 90 ราย นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อขอรับบริการสินเชื่อได้ที่สำนักงานสาขาของบริษัทฯ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 12 สาขา ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้แก่ สาขานครปฐม (สำนักงานใหญ่) สาขาราชบุรี สาขากาญจนบุรี สาขาสุพรรณบุรี สาขานครราชสีมา สาขาชลบุรี สาขาขอนแก่น สาขาพิษณุโลก สาขาสระบุรี สาขาอุบลราชธานี สาขานครสวรรค์ และสาขาสุราษฎร์ธานี
โดยในปี 2564 ตั้งเป้าเพิ่มอีก 4 สาขา และในปี 2565 เพิ่มอีก 4 สาขา หรือภายในปี 2565 จะมีสาขา 20 สาขา เพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองให้แตะ 5,000 ล้านบาท ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 พอร์ตสินเชื่อ อยู่ที่ 2,140 ล้านบาท และสิ้นปี 2563 คาดพอร์ตสินเชื่อจะแตะที่ 2,500 ล้านบาทได้ตามแผน
3.โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ สรุปได้ดังนี้
4. กลยุทธ์และแผนธุรกิจในอนาคต
โครงการในอนาคตในปี 2563 บริษัทฯ มีแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ Mobile Application สำหรับการรวบรวมข้อมูลลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานสาขาส่งข้อมูลมายังสำนักงานใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการอนุมัติสินเชื่อจากส่วนกลาง ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะใช้เงินที่ได้รับจากเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดว่าระบบจะพัฒนาแล้วเสร็จภายในปีนี้
นอกจากนั้น บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรักษาอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อได้ไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี โดยมีแผนจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 2564 - 2565 คาดจะมี 16 สาขา และ 20 สาขา จากปี 2563 มี 12 สาขา มุ่งเน้นในจังหวัดที่มีการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมสูง หรือในพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสองจำนวนมาก โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนในการขยายสาขาเฉลี่ยสาขาละ 4 ล้านบาท จากเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อรองรับเป้าหมายในการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อให้เติบโตเป็น 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2565
ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม และการขยายลูกค้าใหม่ ผ่านการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสอง และการเพิ่มจำนวนสาขาให้ครอบคลุม สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ รวมทั้ง การปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สำหรับแผนธุรกิจระยะยาว บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินแก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร
5.รายได้เติบโตต่อเนื่องในปี 60 - 6M63 โตสวนกระแสโควิด-19
ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2560 - 2562) บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเฉลี่ย (CAGR) 24.4% ต่อปี ด้านกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 30.6% ต่อปี ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2563 และครึ่งปีแรกของปีนี้ มีการเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยงวดครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรสุทธิงวดอยู่ที่ 30.8% แม้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ลูกหนี้เช่าซื้อบางส่วนได้รับผลกระทบ แต่บริษัทฯ ก็มีมาตรการช่วยเหลือ รวมทั้ง สามารถบริหารจัดการ ติดตามและยึดคืนหลักประกันจากลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระได้โดยเร็ว และนำหลักประกันมาจำหน่าย เพื่อนำกระแสเงินสดกลับมาใช้หมุนเวียนในการปล่อยสินเชื่อ พร้อมกับการคุม NPL ในระดับต่ำไม่ถึง 3% สะท้อนธุรกิจรถบรรทุกเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังของทุกปีที่ผ่านมาจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลิตผลทางการเกษตรเริ่มออก และการขยายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่า ผลประกอบการปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย พร้อมกับการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเตรียมพร้อมรับโอกาสในการเติบโต
6. แผนการระดมทุน
ปัจจุบัน MICRO มีทุนจดทะเบียนจำนวน 935 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 935 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 700 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชน ทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 935 ล้านบาท
เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 235,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น
การกำหนดราคาไอพีโอที่ 2.65 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E (Pre-Dilution) ประมาณ 14.0 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ เป็นธุรกิจที่กำลังขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอัตรากำไรอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
เงินที่ได้จากการระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เงินประมาณ 620 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจำนวน 460 ล้านบาท ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 150 ล้านบาท และลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวน 10 ล้านบาท
7. กลุ่มลูกค้าหลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยง
MICRO ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อกับลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีความต้องการเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง สำหรับใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ เจ้าของกิจการ หรือเกษตรกรที่มีความต้องการซื้อรถบรรทุก เพื่อนำไปใช้งานขนส่งสินค้า หรือให้บริการเชิงพาณิชย์ เช่น การรับจ้างขนส่งสินค้าทางการเกษตร สินค้าภาคอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น
ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นลูกค้าจากภาคอุตสาหกรรมขนส่ง โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวต้องการใช้รถบรรทุก เพื่อใช้ในการรับจ้างขนส่งสินค้าทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 60% รองลงมา เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้รถบรรทุกในอุตสาหกรรมก่อสร้าง 20% และอุตสาหกรรมเกษตร 16% ซึ่งกว่า 58% ของยอดปล่อยสินเชื่อทั้งหมดในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 เป็นลูกค้าจากโซนภาคกลางของประเทศ
8. จุดเด่นของ MICRO และความแข็งแกร่งด้านการเงิน
-
MICRO เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองรายใหญ่ของประเทศ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-
มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจกว่า 25 ปี
-
อยู่ในธุรกิจที่การแข่งขันไม่รุนแรง อุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่อง แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
-
มีสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ และมีคู่ค้าผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสอง และนายหน้าจากทั่วประเทศรวมเกือบ 450 ราย มีความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ
-
มีทีมบุคลากรที่มีความแข็งแกร่ง มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ และประเมินสภาพรถบรรทุกมือสอง จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญ
-
มีระบบตรวจสอบสินเชื่อที่เป้นมาตรฐาน เช่น ระบบ Credit Scoring การตรวจสอบ NCB และประวัติล้มละลาย
-
อัตราดอกเบี้ยรับสูง เนื่องจากเป็นอัตราดอกเบี้ยของรถมือสอง ซึ่งโดยทั่วไปสูงกว่ารถมือหนึ่ง ครอบคลุมความเสี่ยง และค่าใช้จ่าย
-
รายได้ และกำไรเติบโตต่อเนื่อง มีฐานทุนแข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 1.02 เท่า รองรับการขยายพอร์ตสินเชื่อในอนาคต
-
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ในช่วงสถานการณ์ COVID-19
9.นโยบายจ่ายเงินปันไม่ต่ำกว่า 40%
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ โดยที่การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน และฐานะทางการเงินของบริษัท แผนการลงทุน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของบริษัท
ที่มา : efinancethai.com