ประเภทรถบรรทุก 9 ประเภท ที่ถูกต้องตามกฎหมายมีอะไรบ้าง?

การแบ่งประเภทรถบรรทุกตามกฎหมายไทยนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและกำกับดูแลการใช้งานรถบรรทุกให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัย โดยคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน ประเภทสินค้าที่บรรทุก และขนาดของรถ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อกำหนดเฉพาะทั้งในด้านการออกแบบ การใช้งาน และประเภทใบขับขี่ที่ต้องใช้ มาไปทำความรู้จักกับรถบรรทุกทั้ง 9 ประเภทกันค่ะ
ประเภทที่ 1 รถกระบะบรรทุก
รถกระบะบรรทุกเป็นรถบรรทุกขนาดเล็กที่พบเห็นได้ทั่วไปบนท้องถนน มีลักษณะเป็นกระบะเปิดโล่งด้านหลัง อาจมีหลังคาหรือไม่มีก็ได้ บางรุ่นอาจมีเครื่องทุ่นแรงสำหรับยกสิ่งของ ใช้สำหรับบรรทุกสินค้าทั่วไปขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับการขนส่งในระยะใกล้หรือในเมือง
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 2 (บ.2, ท.2) ซึ่งสามารถขับรถบรรทุกขนาดเล็กถึงขนาดกลาง รวมถึงรถโดยสารขนาดเล็กได้
ประเภทที่ 2 รถตู้บรรทุก
รถตู้บรรทุกมีลักษณะเป็นตู้ทึบ มีหลังคาและตัวถังเป็นชิ้นเดียวกัน ใช้สำหรับบรรทุกสินค้าที่ต้องการการปกป้องจากสภาพอากาศหรือต้องการความปลอดภัยสูง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออาหารแช่แข็ง มักมีประตูบานใหญ่ด้านข้างหรือด้านหลังสำหรับขนถ่ายสินค้า
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 2 (บ.2, ท.2) เช่นเดียวกับรถกระบะบรรทุก
ประเภทที่ 3 รถบรรทุกของเหลว
รถบรรทุกของเหลวเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการขนส่งของเหลวประเภทต่างๆ เช่น น้ำมัน นม หรือสารเคมีที่เป็นของเหลว มีลักษณะเป็นถังทรงกระบอกขนาดใหญ่ติดตั้งบนแชสซีรถบรรทุก มีระบบความปลอดภัยสูงเพื่อป้องกันการรั่วไหลของของเหลว
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 4 (บ.4, ท.4) ซึ่งเป็นใบขับขี่สำหรับรถที่ใช้ขนส่งวัตถุอันตราย ผู้ขับต้องผ่านการอบรมพิเศษ
ประเภทที่ 4 รถบรรทุกวัสดุอันตราย
รถบรรทุกวัสดุอันตรายเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการขนส่งวัสดุที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สารเคมีอันตราย วัตถุไวไฟ หรือวัตถุระเบิด มีระบบความปลอดภัยพิเศษ และต้องติดป้ายเตือนอันตรายอย่างชัดเจน การขนส่งต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 4 (บ.4, ท.4) เช่นเดียวกับรถบรรทุกของเหลว ผู้ขับต้องผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านการขนส่งวัสดุอันตราย
ประเภทที่ 5 รถบรรทุกเฉพาะกิจ
รถบรรทุกเฉพาะกิจเป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับงานพิเศษเฉพาะทาง เช่น รถผสมคอนกรีต รถขยะ รถดูดสิ่งปฏิกูล หรือรถบรรทุกติดเครน มีลักษณะและอุปกรณ์พิเศษตามแต่ละประเภทงาน ไม่สามารถใช้งานทั่วไปเหมือนรถบรรทุกปกติได้
ใบขับขี่ที่ใช้: ส่วนใหญ่ใช้ประเภทที่ 2 (บ.4, ท.4) แต่บางประเภทอาจต้องใช้ประเภทที่ 3 หรือ 4 ขึ้นอยู่กับลักษณะงานเฉพาะ
ประเภทที่ 6 รถพ่วง
รถพ่วงเป็นรถบรรทุกที่ประกอบด้วยสองส่วน คือ รถลากจูงและรถพ่วงที่ติดตั้งอยู่ด้านหลัง รถพ่วงมีเพลาล้อของตัวเองและสามารถรับน้ำหนักได้เต็มที่ ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมากในระยะทางไกล สามารถแยกส่วนรถลากจูงและรถพ่วงออกจากกันได้
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 3 (บ.3, ท.3) ซึ่งเป็นใบขับขี่สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถลากจูง
ประเภทที่ 7 รถกึ่งพ่วง
รถกึ่งพ่วงมีลักษณะคล้ายรถพ่วง แต่ส่วนหน้าของรถกึ่งพ่วงจะพาดอยู่บนส่วนท้ายของรถลากจูง ทำให้น้ำหนักบางส่วนถ่ายลงบนเพลาล้อของรถลากจูง ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าปริมาณมากเช่นกัน แต่มีความคล่องตัวในการบังคับมากกว่ารถพ่วง
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 3 (บ.3, ท.3) เช่นเดียวกับรถพ่วง
ประเภทที่ 8 รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว
รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาวเป็นรถที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการขนส่งวัสดุที่มีความยาวพิเศษ เช่น ท่อขนาดใหญ่ เสาไฟฟ้า หรือชิ้นส่วนโครงสร้างขนาดใหญ่ มีโครงสร้างที่สามารถปรับความยาวได้ตามขนาดของสินค้าที่บรรทุก
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 3 (บ.3, ท.3) และอาจต้องมีใบอนุญาตพิเศษในการขนส่งวัสดุยาวพิเศษ
ประเภทที่ 9 รถลากจูง
รถลากจูงเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อลากจูงรถพ่วงหรือรถกึ่งพ่วง ไม่มีพื้นที่บรรทุกสินค้าของตัวเอง แต่มีกำลังเครื่องยนต์สูงและระบบเบรกที่แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกของรถพ่วงหรือรถกึ่งพ่วง
ใบขับขี่ที่ใช้: ประเภทที่ 3 (บ.2, ท.2) เนื่องจากต้องใช้ทักษะเฉพาะในการควบคุมรถลากจูงพร้อมรถพ่วง
ทำไมรถบรรทุกตามกฎหมายถึงมีหลายประเภท
- ความหลากหลายของสินค้า: สินค้าแต่ละประเภทต้องการการขนส่งที่แตกต่างกัน เช่น ของเหลว วัสดุอันตราย หรือสินค้าทั่วไป
- ความปลอดภัย: รถบรรทุกแต่ละประเภทมีมาตรฐานความปลอดภัยเฉพาะ โดยเฉพาะรถบรรทุกวัสดุอันตรายหรือของเหลว
- ประสิทธิภาพในการขนส่ง: การมีรถบรรทุกหลายประเภทช่วยให้สามารถเลือกใช้รถที่เหมาะสมกับปริมาณและลักษณะของสินค้า ทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การควบคุมและกำกับดูแล: การแบ่งประเภทช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถควบคุมและกำกับดูแลการใช้รถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การกำหนดมาตรฐานใบขับขี่: แต่ละประเภทรถบรรทุกต้องการทักษะการขับขี่ที่แตกต่างกัน การแบ่งประเภทช่วยในการกำหนดมาตรฐานใบขับขี่ที่เหมาะสม
- การวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน: การรู้ประเภทและจำนวนรถบรรทุกแต่ละประเภทช่วยในการวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เช่น ถนน สะพาน หรือจุดพักรถ
- การกำหนดภาษีและค่าธรรมเนียม: รถบรรทุกแต่ละประเภทอาจมีการเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานและผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน
รถบรรทุกประเภทไหนบ้างสามารถขอสินเชื่อรถบรรทุกได้
โดยทั่วไป รถบรรทุกทุกประเภทสามารถขอสินเชื่อได้ แต่เงื่อนไขและวงเงินอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและมูลค่าของรถ ประเภทที่มักได้รับความนิยมในการขอสินเชื่อ ได้แก่
- รถกระบะบรรทุก: เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือธุรกิจขนาดเล็ก
- รถตู้บรรทุก: นิยมในกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าที่ต้องการการปกป้องจากสภาพอากาศ
- รถบรรทุก 6 ล้อ และ 10 ล้อ: เป็นที่ต้องการในวงการขนส่งทั่วไป
- รถหัวลาก: สำหรับผู้ประกอบการขนส่งระยะไกลหรือขนส่งสินค้าปริมาณมาก
ทั้งนี้ ผู้ขอสินเชื่อควรพิจารณาความเหมาะสมของประเภทรถบรรทุกกับลักษณะธุรกิจและความสามารถในการชำระหนี้
มองหา สินเชื่อซื้อขายรถบรรทุกมือสอง ไมโครลิสซิ่งเป็นอะไรที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพราะที่นี่มีขั้นตอนการอนุมัติที่ง่ายและประสิทธิภาพ ทราบผลไว ให้วงเงินสูง มีบริการถึงบ้านทั่วประเทศ ภายใน 1 วันและดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.58% มีโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย แถมคุณสามารถ ค้นหาสาขาที่ใกล้บ้านคุณ ได้ด้วย
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ ไมโครลิสซิ่ง ขวัญใจสิบล้อ
Website: https://www.microleasingplc.com
Tiktok: https://www.tiktok.com/@microleasing
Facebook : https://www.facebook.com/Microleasing
Youtube : https://www.youtube.com/@microleasing
Line Official Account: @microleasing
MICRO Call Center: 02-105-5599, 034-109-200